[สัมภาษณ์] หวงซูหมิ่น

หวงซูหมิ่น

จบจากโรงเรียนทาคาดะโนะบาบะ
มหาวิทยาลัยริทสึเมคัง
เข้าเรียนภาควิชาสังคมวิทยาสมัยใหม่ คณะสังคมศาสตร์

ทำไมถึงตัดสินใจไปเรียนที่ญี่ปุ่น?
ฉันตัดสินใจไปเรียนต่อที่ประเทศญี่ปุ่นเมื่อตอนที่ฉันอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่สี่ ฉันคิดว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของญี่ปุ่นจะเหมาะกับฉันมากกว่าการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของจีน ฉันมีความสามารถด้านศิลปศาสตร์และในอนาคตฉันอยากเรียนสังคมวิทยา ฉันจึงตัดสินใจเรียนสังคมวิทยาในญี่ปุ่นเพราะฉันได้เรียนรู้ว่าหลักสูตรสังคมวิทยาที่มหาวิทยาลัยในญี่ปุ่นไม่เพียงแค่สอนทฤษฎีแต่ยังมีกิจกรรมเชิงปฏิบัติมากมายอีกด้วย
คุณเรียนอะไรที่มหาวิทยาลัยเป็นหลัก?
เราเรียนรู้เกี่ยวกับสังคมสมัยใหม่จากมุมมองทางสังคมวิทยา สิ่งแวดล้อม เมือง สื่อ วัฒนธรรม บันเทิง กีฬา ครอบครัว สวัสดิการ เด็ก ฯลฯ คุณสามารถเรียนรู้ปัญหาของสังคมสมัยใหม่ได้จากมุมมองข้ามประเภท
ตอนนี้ชีวิตในมหาวิทยาลัยของคุณเป็นอย่างไรบ้าง?
นอกจากคาบเลคเชอร์ เรายังมีการสร้างปฏิสัมพันธ์ระหว่างนักเรียนในมหาวิทยาลัยอีกด้วย ฉันเชื่อว่าฉันสามารถพัฒนาทักษะการสื่อสารของฉันได้จากการคบเพื่อนจากประเทศอื่นๆ ที่ไม่ใช่เพื่อนชาวจีนด้วยกันในสภาพแวดล้อมที่เป็นสากลนี้
เมื่อสองเดือนที่แล้ว ฉันเริ่มทำงานพาร์ทไทม์ที่ร้านอิซากายะ (บาร์สไตล์ญี่ปุ่น) ในเกียวโต และสามารถเรียนรู้วัฒนธรรมอาหารญี่ปุ่นได้มากมาย
อะไรคือสเน่ห์ของมหาวิทยาลัยริทสึเมคัง?
มหาวิทยาลัยริทสึเมคังมีนักศึกษาต่างชาติมากกว่ามหาวิทยาลัยอื่นๆ ไม่เพียงแต่ฉันได้รู้จักกับเพื่อนร่วมชั้นชาวจีนเท่านั้น แต่ยังได้รู้จักเพื่อนจากประเทศอื่นๆ อีกด้วย มหาวิทยาลัยมีบริการช่วยเหลือนักศึกษามากมาย เช่น การฝึกงาน สัมมนา หลักสูตรคุณวุฒิ และการสนับสนุนการจ้างงาน
คอลเลกชันหนังสือของมหาวิทยาลัยริทสึเมคัง เป็นอันดับ 1 ในบรรดาห้องสมุดมหาวิทยาลัยเอกชนในเขตคันไซอีกด้วย
คุณต้องปรับตัวในมหาวิทยาลัยอย่างไรบ้างโดยเฉพาะในฐานะนักศึกษาต่างชาติ?
สิ่งสำคัญที่ต้องปรับตัว คือ ฉันต้องสื่อสารและพูดคุยกับคนญี่ปุ่นให้มากขึ้นและฉันคิดว่าเราควรมีปฏิสัมพันธ์กับนักเรียนชาวญี่ปุ่นให้มากขึ้นด้วยแทนที่จะอยู่ในแวดวงของนักเรียนต่างชาติกันเองเท่านั้น
คุณรู้สึกอย่างไรกับการสอบเข้ามหาวิทยาลัยของคุณ?
ฉันเรียนทั้งภาคเรียนที่หนึ่งและสองของมหาวิทยาลัยริทสึเมคัง ในภาคเรียนที่หนึ่ง ฉันสนใจแค่ EJU (ภาษาญี่ปุ่น) เท่านั้น และสอบได้คะแนนน้อยในวิชาอื่นๆ ฉันจึงสอบไม่ผ่านทุกมหาวิทยาลัยที่เรียน รวมถึงมหาวิทยาลัยริทสึเมคัง ฉันจึงลองตั้งใจใหม่ในภาคเรียนที่สอง ฉันไม่เพียงแค่คะแนนเพิ่มขึ้น แต่ฉันยังฝึกฝนการสัมภาษณ์จำลองที่โรงเรียนอีกด้วย และในที่สุดฉันสามารถผ่านการสอบข้อเขียนและการสอบสัมภาษณ์ครั้งสุดท้ายและสอบผ่านมหาวิทยาลัยริทสึเมคังได้อย่างไม่มีปัญหา
อย่าท้อแท้ถ้าหากว่าคุณล้มเหลว ถ้าคุณพยายามเพิ่มขึ้น คุณก็สามารถบรรลุเป้าหมายได้ หากคุณสังเกตเห็นข้อบกพร่องของตนเองจากความล้มเหลวได้ เพียงคุณพยายามและผลลัพธ์ก็จะตามมาอย่างแน่นอน
คุณวางแผนอนาคตของคุณอย่างไรบ้าง?
ฉันอยากเรียนต่อวิทยาลัยบัณฑิตด้านสังคมวิทยา

top