23.May.2022
DISCOVER JAPAN
ในภูมิภาคญี่ปุ่นส่วนใหญ่ (รวมถึงโตเกียว) ฤดูฝนจะเริ่มตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายนถึงกลางเดือนกรกฎาคม อย่างไรก็ตาม ทั้งทางเหนือและทางใต้ของประเทศญี่ปุ่นต่างก็มีประสบการณ์ที่แตกต่างกัน อีกอย่างที่ต้องจำไว้คือยิ่งคุณไปทางตะวันตกมากเท่าไหร่ โอกาสที่ฝนจะตกก็จะสูงขึ้นเท่านั้น อีกอย่างที่ต้องจำไว้คือยิ่งคุณไปทางตะวันตกมากเท่าไหร่ โอกาสที่ฝนจะตกก็จะสูงขึ้นเท่านั้น
ฮอกไกโดและหมู่เกาะโอกาซาวาระแทบไม่เจอฝนเลยตลอดสัปดาห์นี้ ไม่ได้หมายความว่าอากาศที่นั่นจะเพอร์เฟ็คท์แต่ช่วงนี้อาจมีอากาศหนาวและมีเมฆเยอะหน่อย ในหมู่เกาะทางใต้ของญี่ปุ่นเช่นโอกินาว่าฤดูฝนจะมาเร็วกว่าในเดือนพฤษภาคม
สภาพอากาศที่เปียกชื้นเกิดจากลมหนาวจากลมเหนือที่พัดมาปะทะกับลมใต้ที่อบอุ่นทำให้ฝนตกได้หลายสัปดาห์ ปริมาณน้ำฝนแตกต่างกันอย่างมากในแต่ละปี บางปีก็เปียกเป็นพิเศษส่วนปีอื่นๆแทบไม่ตกเลย
สำหรับนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่ฤดูฝนไม่ใช่เวลาที่เหมาะที่จะมาเที่ยวญี่ปุ่น ฝนและพายุซึ่งเป็นลักษณะของช่วงเวลานี้ทำให้ผู้คนจำนวนมากไม่อยากเที่ยว คนจะนิยมเที่ยวช่วงก่อนและหลังฤดูฝนมากกว่า
กิจกรรมในร่มยอดนิยมในญี่ปุ่น ได้แก่ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โบว์ลิ่ง คาราโอเกะ สวนสนุกในร่ม สัมผัสประสบการณ์ทางวัฒนธรรม เรียนทำอาหาร ฯลฯ นอกจากนี้คาเฟ่สัตย์เลี้ยงได้รับความนิยมอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
ฝนอาจกลัลกลายเป็นข้ออ้างที่ดีในการเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์ทั้งวัน ตั้งแต่นิทรรศการประวัติศาสตร์ไปจนถึงศิลปะดิจิทัลที่มีเอกลักษณ์ ญี่ปุ่นมีพิพิธภัณฑ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกหลายประเภทและนิทรรศการพิเศษที่จัดขึ้นเป็นครั้งคราว
ช้อปปิ้งเป็นหนึ่งในกิจกรรมที่ดีที่สุดในวันที่ฝนตก! มีห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่มากมายในญี่ปุ่นซึ่งมีร้านค้านับร้อยภายใน ซึ่งคุณสามารถเพลิดเพลินกับการช้อปปิ้งเป็นเวลาสองสามชั่วโมงโดยไม่ต้องออกไปข้างนอก
เป็นเวลาที่ดีที่สุดที่จะชมนางงามแห่งฤดูฝนนั่นคือดอกไฮเดรนเยีย (ในภาษาญี่ปุ่นคืออาจิไซ) เทศกาลดอกไฮเดรนเยียหลายแห่งจัดขึ้นที่โตเกียวในช่วงฤดูกาลรวมทั้ง Bunkyo Ajisai Matsuri
พอคุณรู้แล้วว่าสามารถทำอะไรได้บ้างในวันที่ฝนตกที่ญี่ปุ่น คุณก็ไม่สามารถออ้างได้ว่าคุณจะเบื่อ